เรียนอย่างไรให้ “เทพ”
นักเรียน นักศึกษาทุกคน หรือแม้กระทั่งคนที่มีลูกหลานอยู่ในช่วงวัยเรียน คงต้องเคยมีคำถามนี้อยู่ในหัวแน่นอน “ทำยังไง (ลูก)ฉันถึงจะเรียนเก่ง?”ใช่มั้ยครับ โดยส่วนตัวผมเองก็ถือว่าคนที่เรียนได้พอใช้อยู่ แต่ก็ไม่เคยคิดจริงๆจังๆว่าเอ๊ะเพราะอะไรนะ เราถึงเรียนได้ดี จนกระทั่งผมได้อ่านบทความของคุณ Ahmad Ali ที่เขียนได้ดีมาก และผมก็พบว่าสิ่งที่เขาเขียนเป็นความจริงที่เกิดกับผมโดยไม่เคยนึกขึ้นมาก่อนด้วย มาครับเดี๋ยวผมเล่าให้ฟังว่าทำยังไงเราถึงจะเรียนได้เก่งจนเพื่อนๆต้องเรียกเราว่า “เทพ”
ก่อนอื่นเลยมีงานวิจัยสำคัญอยู่ 2 งานครับที่ต้องรู้ก่อนที่จะมาลงรายละเอียดกัน งานวิจัยแรกนั้นเกี่ยวกับ Graphความจำ และงานที่สองเกี่ยวกับ ช่วงเวลาสมาธิ
Graphความจำของมนุษย์ [1]
งานวิจัยได้บอกเราครับว่า เมื่อคุณอ่านหรือได้ยินอะไรมาซักอย่าง คุณจะจดจำมันได้ในทันที แต่แล้วคุณจะค่อยๆลืมไปตามกาลเวลา โดยประมาณ 2เดือน คุณก็จะลืมแทบทุกอย่างที่คุณเคยจำได้ละครับ (บางคนอาจเร็วกว่านั้น T T) แต่งานวิจัยนีได้บอกส่วนที่สำคัญมากๆอย่างนึงนั่นคือ “การทบทวน” เมื่อเราทบทวนสิ่งที่เราจำได้เป็นพักๆ คอนเนคชั่นระหว่างสมองเรากับความจำนั้นจะเข้มแข็งขึ้น และทำให้เราลืมยากขึ้นครับ เรียกได้ว่าพยายามจะลืมก็ลืมไม่ได้เลยทีเดียว
ลองดูกราฟข้างล่างจะเห็นครับ เมื่อมีการทบทวนครั้งที่สาม อัตราการลืมของเราจะลดลงมากเมื่อเทียบกับการเริ่มจำครั้งแรก
เพราะฉะนั้นครับ แทนที่จะมานั่งท่องจำอะไรซักอย่าง เราควรจะวางแผนในการ “ทบทวน” มากกว่า แล้วก็ไม่ต้องเครียดมากครับ ทบทวนแบบสบายๆ แต่บ่อยๆ ลองเริ่มอ่านแบบมีสมาธิในครั้งแรก อ่านอีกรอบตอนเย็น อีกครั้งวันรุ่งขึ้น แล้วก็ข้ามไปอีกอาทิตย์ ทีนี้พอผ่านไปซักสองสัปดาห์ ลองทดสอบตัวเองดูครับว่ายังจำได้อยู่รึเปล่า จากนั้นก็ทวนอีกรอบเมื่อผ่านมาอีกเดือนนึง (ลองเริ่มทดสอบกับบทความนี้ก็ได้ครับ ^^)
คุณจะพบว่าการจดจำของคุณดีขึ้นมาก อะไรที่คุณอ่านหรือได้ยินจะไม่ลืมไปง่ายๆละครับ
ช่วงสมาธิของคน [2]
ดูจากกราฟก็จะเห็นเลยครับว่า เมื่อเวลาผ่านไป 45นาที คนเรานั้นจะสามารถรักษาสมาธิได้แค่ 30% นี่ละครับคือที่มาว่าทำไมคลาสนึงในโรงเรียนถึงใช้เวลาประมาณ 45นาที ทีนี้ในมหาลัยอาจจะมากกว่านั้นขึ้นมาหน่อยแล้วถึงต้องมีพักเบรก ในงานวิจัยแนะนำครับว่าหลังจากเพ่งสมาธิในการเรียนได้ 1ชั่วโมงแล้วเราควรพักเบรกซักประมาณ 5นาที ซึ่งการพักเบรกนี่ละครับช่วยเพิ่มพลังสมาธิของเรากลับมาได้ถึง 90% เลยทีเดียว
อีกสิ่งนึงที่สำคัญเกี่ยวกับเรื่องความจำก็คือ การอ่านเรื่องเดียวกันแต่มาจาก ข้อมูลหลายแหล่ง ครับ ทำไมถึงต้องทำอย่างนั้น? มีสองสาเหตุครับ หนึ่งคือช่วยลดความน่าเบื่อในการอ่านหนังสือเล่มเดียวนานๆได้ และสองคือช่วยให้เราสามารถเห็นมุมมองที่ต่างออกไปในหัวเรื่องหรือสถานการณ์เดียวกันได้ การอ่านที่หลากหลายยังช่วยเพิ่มคอนเนคชั่นระหว่างสมองกับข้อมูล ทำให้เราลืมยากขึ้น และขุดดึงข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เกล็ดเล็กๆน้อยๆ
- สิ่งนึงที่ต้องคำนึงมากๆเลยคือ ช่วงเวลาประสิทธิภาพ บางคนเรียนรู้ได้ดีตอนเช้า แต่บางคนอาจจะเป็นตอนค่ำ เลือกเวลาที่เหมาะสมกับตัวเอง แต่โดยมากแล้วช่วงเวลาที่ร่างกายเราพร้อมจะเรียนรู้มากที่สุดคือช่วงเช้าตรู่
- อย่าลืมทำให้อุณหภูมิห้องอุ่นนิดนึง เพราะอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยให้เรามีสมาธิมากยิ่งขึ้น
สรุป
- อย่าคิดว่าจำได้แล้วจะไม่ลืม ต้องวางแผนในการทบทวนด้วย
- เมื่อพลังสมาธิหมดให้พักเบรกสั้นๆ แล้วกลับมาโฟกัสกับการเรียนต่อ
บทความนี้ยังไม่จบครับ ตอนหน้าเราจะมาลงรายละเอียดกัน ดูซิว่าคนเทพๆเนี่ยเค้าวางแผนการเรียนยังไง ถึงได้เรียนเก่งเหลื๊อออเกิน
Credit: http://www.quora.com/What-are-the-best-study-methods-1
References:
[1] http://archive.wired.com/medtech/health/magazine/16-05/ff_wozniak?currentPage=all
[2] http://en.wikipedia.org/wiki/Attention_span
ตอนถัดไป
It’s awesomeremarkableamazing fordesigned forin favor ofin support of me to have a websiteweb sitesiteweb page, which is beneficialhelpfulusefulvaluablegood fordesigned forin favor ofin support of my experienceknowledgeknow-how. thanks admin