สถาบันไม่มีเว็บไซต์ ไม่ต่างจากคนไร้บ้าน

ถ้าคุณเป็นติวเตอร์ หรือมีสถาบันกวดวิชาของตัวเอง การมีเว็บไซต์ก็เปรียบเสมือนบ้านของคุณ เรามาดูกันค่ะ ว่าเหตุผลอะไรบ้างที่สถาบันกวดวิชาควรมีเว็บไซต์ ลูกค้าสามารถค้นหาสถาบันเราเจอบนโลกออนไลน์  เพราะปัจจุบันนี้พฤติกรรมของลูกค้าไม่ได้เดินไปหาสถาบันแล้ว แต่ลูกค้าจะทำการหาข้อมูลใน Google และดูรายละเอียดจากเว็บไซต์เพื่อเปรียบเทียบข้อมูล แล้วตัดสินใจซื้อทันที และถ้าคุณไม่มีเว็บไซต์ โอกาสที่ลูกค้าจะมาเจอ ก็ยากขึ้นไปอีกค่ะ   2. เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรของคุณ บางคนคิดว่า มีแค่ Facebook ก็สามารถขายคอร์สได้ หรือให้ข้อมูลกับลูกค้าได้ แต่ลองคิดดูว่า ถ้าลูกค้าอยากจะเสิร์ทหาคุณ แล้วไม่เจอเว็บไซต์ที่เป็นทางการความน่าเชื่อถือก็ลดน้อยลงด้วยค่ะ   3. ทำการตลาดออนไลน์ ให้ผลลัพธ์ดีกว่า  ในการทำการตลาดในปัจจุบันนี้ก็ต้องทำให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้านะ จากที่บอกว่า พฤติกรรมลูกค้าจะทำการหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก เราก็จะต้องทำการตลาดบนออนไลน์ด้วยค่ะ แต่ถ้าเราไม่มีเว็บไซต์ของตัวเอง เราก็ไม่สามารถทำการตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพได้ค่ะ เช่นหากเราจะทำโฆษณา Google Adword แต่เราไม่มีเว็บไซต์ก็ไม่สามารถทำได้ค่ะ   4. เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน และถาวร  เมื่อเรามีเว็บไซต์ เราสามารถสร้างระบบขายคอร์สออนไลน์บนเว็บไซต์ได้ เพียงแค่อัดวิดีโอสอน แล้วลงขายบนเว็บไซต์ คุณก็สามารถสร้างรายได้ ได้อย่างยั่งยืน และถาวร ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว ทำไมจะไม่สร้างเว็บไซต์ของสถาบัน จริงไหมคะ    …

Share this:
Read More

9 จิตวิทยา Marketing แบบเน้นๆ

สวัสดีครับ วันนี้ทีมงาน coursesquare ก็มีเรื่องน่ารู้ น่าอ่าน มาแชร์กันอีกแล้ว เรื่องนี้ผมได้ไปอ่านมาจาก blog.bufferapp.com ซึ่งเป็นบทความของคุณ Kevan Lee  ครับ อ่านไปแล้วพยักหน้าหงึกๆ ด้วยนะ เคยอยากจะรู้มั้ยครับว่า “ทำไม หรือ ทำยังไง คนถึงกด Like, Share, Comment หรือ Favorite ให้หน้าเพจของเรา?” (พยักหน้าสิ แล้วบอกว่าอยากรู้ๆๆๆ) บทความนี้มีตัวอย่างประกอบทั้งบทความเลยครับ ผมเชื่อว่าใครๆ ก็อ่านเข้าใจได้ในรอบเดียวแน่นอน การรู้เรื่องจิตวิทยาของคนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “จิตวิทยาส่วนที่เน้นๆ เกี่ยวกับ Marketing โดยตรง” เนี่ย มันจะทำให้คุณเข้าใจสิ่งที่กำลังเป็นไปได้อย่างง่ายและตรงจุดขึ้นอย่างมากทีเดียวครับ ปล 1. ตอนอ่านหัวข้อแต่ละข้อไม่ต้อง Focus ที่ชื่อหัวข้อก็ได้นะครับ มันจะเป็นศัพท์ยากๆ เท่ๆ หน่อย ถ้าเราพยายามจำชื่อมันเดี๋ยวจะอ่านไม่จบเอา อยากให้ Focus ที่เนื้อหาในแต่ละข้อครับ 😀 ปล 2. เดิมทีบทความมีทั้งหมด 15 ข้อนะครับ แต่ผมเขียนมาแค่ข้อที่ผมชอบใจจริงๆ หากใครอยากอ่านทั้ง 15 ข้อ คลิกที่นี่ เพื่อไปที่บทความต้นฉบับเลยครับ (แต่เป็นภาษาอังกฤษนะ) 1. Endowment Effect…

Share this:
Read More

เรียนอย่างไรให้ “เทพ”

นักเรียน นักศึกษาทุกคน หรือแม้กระทั่งคนที่มีลูกหลานอยู่ในช่วงวัยเรียน คงต้องเคยมีคำถามนี้อยู่ในหัวแน่นอน “ทำยังไง (ลูก)ฉันถึงจะเรียนเก่ง?”ใช่มั้ยครับ โดยส่วนตัวผมเองก็ถือว่าคนที่เรียนได้พอใช้อยู่ แต่ก็ไม่เคยคิดจริงๆจังๆว่าเอ๊ะเพราะอะไรนะ เราถึงเรียนได้ดี จนกระทั่งผมได้อ่านบทความของคุณ Ahmad Ali ที่เขียนได้ดีมาก และผมก็พบว่าสิ่งที่เขาเขียนเป็นความจริงที่เกิดกับผมโดยไม่เคยนึกขึ้นมาก่อนด้วย มาครับเดี๋ยวผมเล่าให้ฟังว่าทำยังไงเราถึงจะเรียนได้เก่งจนเพื่อนๆต้องเรียกเราว่า “เทพ”   ก่อนอื่นเลยมีงานวิจัยสำคัญอยู่ 2 งานครับที่ต้องรู้ก่อนที่จะมาลงรายละเอียดกัน งานวิจัยแรกนั้นเกี่ยวกับ Graphความจำ และงานที่สองเกี่ยวกับ ช่วงเวลาสมาธิ   Graphความจำของมนุษย์ [1] งานวิจัยได้บอกเราครับว่า เมื่อคุณอ่านหรือได้ยินอะไรมาซักอย่าง คุณจะจดจำมันได้ในทันที แต่แล้วคุณจะค่อยๆลืมไปตามกาลเวลา โดยประมาณ 2เดือน คุณก็จะลืมแทบทุกอย่างที่คุณเคยจำได้ละครับ (บางคนอาจเร็วกว่านั้น T T) แต่งานวิจัยนีได้บอกส่วนที่สำคัญมากๆอย่างนึงนั่นคือ “การทบทวน” เมื่อเราทบทวนสิ่งที่เราจำได้เป็นพักๆ คอนเนคชั่นระหว่างสมองเรากับความจำนั้นจะเข้มแข็งขึ้น และทำให้เราลืมยากขึ้นครับ เรียกได้ว่าพยายามจะลืมก็ลืมไม่ได้เลยทีเดียว ลองดูกราฟข้างล่างจะเห็นครับ เมื่อมีการทบทวนครั้งที่สาม อัตราการลืมของเราจะลดลงมากเมื่อเทียบกับการเริ่มจำครั้งแรก เพราะฉะนั้นครับ แทนที่จะมานั่งท่องจำอะไรซักอย่าง เราควรจะวางแผนในการ “ทบทวน” มากกว่า แล้วก็ไม่ต้องเครียดมากครับ ทบทวนแบบสบายๆ แต่บ่อยๆ ลองเริ่มอ่านแบบมีสมาธิในครั้งแรก อ่านอีกรอบตอนเย็น…

Share this:
Read More